AIAT ร่วมเวทีอาเซียน ชี้พลัง AI สร้างอนาคตประชาชนไทยและภูมิภาค

ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคมโลก เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังก้าวขึ้นมาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศและภูมิภาค สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIAT) จึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเวทีระดับอาเซียน เพื่อร่วมถอดบทเรียนและมองทิศทางอนาคตที่ “ตอบโจทย์ประชาชน” อย่างแท้จริง
 
สมาคมอาเซียน – ประเทศไทย ร่วมกับกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ จัดการสัมมนา “ความร่วมมืออาเซียน: บทสรุปปี 2568 ตอบโจทย์ประชาชนอย่างไร?” ในวันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2568 เวลา 13.00 – 16.00 น. ณ ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรม Eastin Grand Phayathai กรุงเทพฯ
 
การสัมมนาครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจแก่สาธารณชนเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการประชุมสุดยอดอาเซียนในปี 2568 พร้อมเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนมุมมองจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อเตรียมความพร้อมของประเทศไทยและอาเซียนต่อบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบทบาทของ เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI ที่กำลังมีอิทธิพลโดยตรงต่อเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน
เวทีเสวนานี้ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายภาคส่วน ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองต่อทิศทางอาเซียนในปี 2568 ดังนี้
– คุณพลพงศ์ วังแพน อธิบดีกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศบรรยายหัวข้อ “บทสรุปความร่วมมืออาเซียนในปี 2568”
– คุณกวี จงกิจถาวร นักวิชาการและสื่ออิสระถ่ายทอดมุมมองในหัวข้อ “อาเซียนในปี 2568 จากมุมมองของสื่อมวลชน”
– คุณกอบศักดิ์ ดวงดี ประธานสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนประเทศไทย และเลขาธิการสมาคมธนาคารไทยบรรยายหัวข้อ “เศรษฐกิจดิจิทัล: พลังขับเคลื่อนไทยและอาเซียนสู่โลกยุคใหม่”
– ดร.เทพชัย ทรัพย์นิธิ นายกสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIAT) บรรยายหัวข้อ “สร้างอนาคตด้วย AI: โอกาสของไทยและอาเซียน” ชี้ให้เห็นศักยภาพของ AI ในการยกระดับขีดความสามารถและคุณภาพชีวิตของประชาชน
– ดร.แบ๊งค์ งามอรุณโชติ ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีร่วมแลกเปลี่ยนในหัวข้อ “ไทยพร้อมหรือยังสำหรับเศรษฐกิจและสังคมยุค AI: บทบาทสถาบันศึกษา”
 
การเข้าร่วมเวทีสัมมนาครั้งนี้สะท้อนบทบาทของสมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทยในการเป็นพลังขับเคลื่อนองค์ความรู้ด้าน AI สู่ระดับนโยบายและระดับภูมิภาค พร้อมร่วมกำหนดทิศทางอนาคตที่เทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับชีวิตประชาชนไทยและอาเซียนให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน