รวม 5 เครื่องมือ AI สัญชาติไทย

การพัฒนาเทคโนโลยี AI ในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว มีเครื่องมือ AI หลายตัวที่พัฒนาโดยคนไทยและเป็น Open Source เพื่อสนับสนุนการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งด้านการตลาด การพัฒนาเนื้อหา หรือการพัฒนาระบบอัตโนมัติ ในบทความนี้จะขอนำเสนอ 5 เครื่องมือ AI ที่พัฒนาโดยคนไทย ได้แก่
 
AI FOR THAI
เป็นแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาโดยคนไทยโดยมีจุดเด่นที่สำคัญ คือ การรองรับการใช้งานภาษาไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
▪️ผู้พัฒนา: ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC)
▪️จุดเด่น:
– เป็นเครื่องมือ AI ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผลภาษาไทยโดยเฉพาะ
– ช่วยในการประมวลผลข้อมูลจากข้อความภาษาไทย เช่น การแปลภาษา, การสรุปข้อความ และการทำงานด้าน NLP (Natural Language Processing)
▪️ข้อดี:
– เหมาะสำหรับการใช้ในภาษาไทยโดยเฉพาะ
– มีความแม่นยำในการประมวลผลข้อมูลภาษาไทยสูง
▪️ข้อจำกัด:
– ไม่รองรับภาษาอื่น ๆ ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ในตลาดต่างประเทศ
– ยังอยู่ในระยะการพัฒนาและอาจไม่สมบูรณ์ทุกฟีเจอร์
▪️บริการ:
– ใช้งานได้ฟรี เพื่อการศึกษาหรือทดสอบการใช้งานเท่านั้น
– แพ็กเกจเสียเงิน หากต้องการใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงหรือเพื่อการพาณิชย์
ทดลองใช้ : https://aiforthai.in.th/index.php
 
CiRA CORE
แพลตฟอร์ม AI สัญชาติไทย เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมไทย แพลตฟอร์มนี้เชื่อมโยงอุปกรณ์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อสร้างโซลูชัน AI สำหรับหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ มีวิธีการเขียนโปรแกรมแบบ low-code
▪️ผู้พัฒนา: ศูนย์วิจัยหุ่นยนต์อุตสาหกรรมและระบบอัตโนมัติ (CiRA)
▪️จุดเด่น:
– ระบบ AI สำหรับอุตสาหกรรมที่สามารถประมวลผลข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT, หุ่นยนต์, และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ
– พัฒนาในรูปแบบ Low-Code ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างและปรับแต่งโมเดล AI ได้ง่าย
▪️ข้อดี:
– เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมและการผลิต
– รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หลากหลาย
▪️ข้อจำกัด:
– เน้นการใช้งานในอุตสาหกรรม ทำให้ไม่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในด้านอื่น ๆ
– อาจต้องใช้ความเข้าใจเทคโนโลยีบางอย่างในการใช้งาน
▪️บริการ:
– ใช้งานได้ฟรี สำหรับนักเรียนและผู้ที่ทำเป็นงานอดิเรก
– แพ็กเกจเสียเงิน หากต้องการใช้ฟีเจอร์ระดับสูงหรือเพื่อการพาณิชย์
ทดลองใช้ : https://www.cira-ai.com/
 
Alisa AI
Alisa AI เป็น Generative AI ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวในรูปแบบ Chatbot รองรับการใช้งานภาษาไทย มีฟังก์ชันหลากหลาย เช่น การวาดรูป สร้างและแก้ไขรูปภาพ ตอบคำถาม เขียนเนื้อหา แปลภาษา และให้คำปรึกษา
▪️ผู้พัฒนา: บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป จำกัด (มหาชน) หรือ GLORY
▪️จุดเด่น:
แพลตฟอร์มที่รองรับการสร้างคอนเทนต์อัตโนมัติสำหรับธุรกิจ
สามารถช่วยสร้างบทความ, แคปชัน, และคอนเทนต์โฆษณาได้โดยไม่ต้องพึ่งพานักเขียนมืออาชีพ
▪️ข้อดี:
ช่วยประหยัดเวลาในการสร้างคอนเทนต์
ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับนักการตลาด
▪️ข้อจำกัด:
การสร้างคอนเทนต์ที่ซับซ้อนอาจต้องการการปรับแต่งเพิ่มเติม
คอนเทนต์ที่ได้อาจไม่เหมาะสมสำหรับทุกประเภทของธุรกิจ
▪️บริการ
– ใช้งานได้ฟรี เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งานได้ฟรีผ่านแอปพลิเคชัน LINE
– แพ็กเกจเสียเงิน อาจมีฟีเจอร์หรือบริการเสริมที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้
ทดลองใช้ : https://alisamaid.com/
 
Anissa AI
เป็นผู้ช่วยเขียนคอนเทนต์อัจฉริยะที่รองรับภาษาไทย ช่วยในการสร้างเนื้อหา เขียนแคปชันโซเชียลมีเดีย งานวิจัย และบทความ SEO ทำให้นักการตลาดและผู้สร้างเนื้อหาสามารถผลิตงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
▪️ผู้พัฒนา: บริษัท Luca Block Company Limited
▪️จุดเด่น:
– AI ที่ช่วยในการเขียนคอนเทนต์ภาษาไทย โดยรองรับฟังก์ชันการเขียนบทความ SEO, การเขียนโพสต์โซเชียลมีเดีย, และการสรุปเนื้อหาจากงานวิจัย
– รองรับการปรับแต่งโทนเสียงและสไตล์การเขียนตามกลุ่มเป้าหมาย
▪️ข้อดี:
– เหมาะสำหรับธุรกิจและนักการตลาดที่ต้องการสร้างคอนเทนต์รวดเร็ว
– รองรับการปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
▪️ข้อจำกัด:
ฟังก์ชันการใช้งานบางตัวอาจต้องการการปรับปรุง
อาจต้องการการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้เนื้อหาที่มีคุณภาพสูงสุด
▪️บริการ
– ทดลองใช้งานฟรี ระยะเวลา 7 วัน โดยสามารถสร้างเนื้อหาได้ประมาณ 15 บทความ
– แพ็กเกจเสียเงิน หลังจากหมดช่วงทดลองใช้ฟรี มีแพ็กเกจให้เลือกตามความต้องการ เช่น Basic Plan, Standard Plan, และ Pro Plan โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามจำนวนบทความที่สามารถสร้างได้ต่อเดือน
ทดลองใช้ : https://anissa.ai/
 
Mandala AI
เป็นเครื่องมือ MarTech ที่ช่วยธุรกิจทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อช่วยให้ธุรกิจเข้าใจตลาดและผู้บริโภคได้ดีขึ้น โดยมีฟีเจอร์ในการวิเคราะห์ข้อมูล การติดตามแนวโน้ม และการวิเคราะห์คู่แข่ง
▪️ผู้พัฒนา: บริษัท Ocean Skynet
▪️จุดเด่น:
– AI สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดียและช่วยในการทำการตลาดดิจิทัล
– ช่วยตรวจสอบประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดและทำการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า
▪️ข้อดี:
– เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย
– ช่วยในการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพโดยใช้ข้อมูลจริง
▪️ข้อจำกัด:
– ราคาแพ็กเกจสูงอาจไม่เหมาะสมสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
– บางฟีเจอร์อาจซับซ้อนในการใช้งานสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานการตลาด
▪️บริการ
– ใช้งานได้ฟรี สำหรับการใช้งานเบื้องต้น
– แพ็กเกจเสียเงิน มีแพ็กเกจให้เลือกตามความต้องการ เช่น Starter Plan, Individual Plan, และ Professional Plan โดยราคาจะแตกต่างกันไปตามความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลได้ต่อเดือน
ทดลองใช้ : https://www.mandalasystem.com/
 
สรุป
เครื่องมือ AI ทั้ง 5 ตัวที่พัฒนาโดยคนไทยเหล่านี้มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่จะเน้นการใช้งานในด้านต่าง ๆ เช่น การสร้างคอนเทนต์, การวิเคราะห์ข้อมูล, และการปรับใช้ในภาคอุตสาหกรรม แม้จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ผู้ใช้ควรพิจารณาเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับความต้องการ